Xenoblade Chronicles X: Definitive Edition – เผยรายละเอียดเรื่องราวใหม่และการปรับปรุงการเล่นเกม
ตัวอย่างใหม่สำหรับ Xenoblade Chronicles X: Definitive Edition นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการเล่าเรื่องและตัวละครของเกม เกมต้นฉบับจบลงด้วยความตื่นเต้น แต่การเปิดตัวที่จะมาถึงนี้สัญญาว่าจะขยายเนื้อหา ซึ่งอาจช่วยแก้ปัญหาที่ค้างคาใจจากการเปิดตัว Wii U ในปี 2015
ตัวอย่างชื่อ "The Year is 2054" นำเสนอ Elma ซึ่งเป็นตัวละครเอกที่เล่าถึงเหตุการณ์ที่นำไปสู่การมาถึงของมนุษยชาติบนดาวเคราะห์ Mira นอกจากนี้ยังนำเสนอรูปแบบการเล่นที่ดัดแปลง โดยเปลี่ยนฟังก์ชัน Wii U GamePad ไปเป็น Nintendo Switch ได้อย่างราบรื่น
สร้างโดย Tetsuya Takahashi จาก Monolith Soft ซีรีส์ Xenoblade Chronicles เป็นแฟรนไชส์ JRPG ที่มีชื่อเสียงซึ่งมีเฉพาะบนแพลตฟอร์ม Nintendo เท่านั้น Xenoblade Chronicles ต้นฉบับมีวางจำหน่ายในญี่ปุ่นอย่างจำกัด ก่อนที่แคมเปญที่ขับเคลื่อนโดยแฟนๆ อย่าง Operation Rainfall จะออกสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ความสำเร็จของซีรีส์นี้ทำให้เกิดภาคต่อ Xenoblade Chronicles 2 และ Xenoblade Chronicles 3 พร้อมด้วยภาคแยก Xenoblade Chronicles X XCX: Definitive Edition ทำให้ทั้งซีรีส์สามารถเข้าถึงได้บน Nintendo Switch
ตัวอย่างใหม่เน้นฉากโลกปี 2054 ซึ่งเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างกาแล็กซีระหว่างกลุ่มต่างดาว กลุ่มมนุษย์ที่สิ้นหวังหลบหนีจากการทำลายล้างของดาวเคราะห์ที่กำลังจะเกิดขึ้นบนเรือ White Whale เพื่อแสวงหาที่หลบภัยบน Mira อย่างไรก็ตาม ชิ้นส่วนเทคโนโลยีที่สำคัญซึ่งก็คือ Lifehold (ซึ่งมีผู้โดยสารส่วนใหญ่อยู่ในภาวะชะงักงัน) ได้สูญหายไประหว่างการชน ภารกิจของผู้เล่นคือการค้นหาไลฟ์โฮลด์ก่อนที่แหล่งพลังงานจะหมด
การเล่าเรื่องที่ขยายและการเล่นเกมที่คล่องตัว
Definitive Edition จะมีองค์ประกอบเรื่องราวใหม่ ซึ่งอาจช่วยเชื่อมช่องว่างที่เหลือจากตอนจบที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขของเกมต้นฉบับ นอกเหนือจากภารกิจหลักของ BLADE (การค้นหา Lifehold) ผู้เล่นจะสำรวจ Mira วางยานสำรวจ และต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตทั้งพื้นเมืองและเอเลี่ยนเพื่อสร้างบ้านใหม่สำหรับมนุษยชาติ
เวอร์ชัน Wii U ใช้ GamePad อย่างหนัก โดยทำหน้าที่เป็นแผนที่แบบไดนามิกและเครื่องมือโต้ตอบสำหรับทั้งการเล่นเดี่ยวและออนไลน์ เวอร์ชัน Switch ผสานรวมฟังก์ชันการทำงานนี้อย่างชาญฉลาด ขณะนี้เข้าถึงอินเทอร์เฟซของ GamePad ได้ผ่านเมนูเฉพาะ แผนที่ขนาดเล็กถูกรวมไว้ที่มุมขวาบน (สอดคล้องกับชื่อ Xenoblade อื่น ๆ) และองค์ประกอบ UI อื่น ๆ ได้รับการรวมเข้ากับหน้าจอหลักได้อย่างราบรื่น ผลลัพธ์ที่ได้คือ UI ที่สะอาดตา แม้ว่าการปรับเปลี่ยนนี้อาจเปลี่ยนแปลงไดนามิกของการเล่นเกมอย่างละเอียดเมื่อเทียบกับต้นฉบับ